ตุลาคม 31, 2024

คาร์เทียร์เผยโฉม Panthère de Cartier เครื่องประดับคอลเลคชั่นล่าสุด ที่ผสานงานประติมากรรมเข้ากับสัมผัสอันคล่องตัว นำเสนอพลังและเสน่ห์ของเสือแพนเตอร์

คิม จีชู – แอมบาสเดอร์ประจำคอลเลคชั่น ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์

20 ตุลาคม 2565 – กรุงเทพฯ – คาร์เทียร์ เผยโฉมเครื่องประดับคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ปองแตร์ เดอ          คาร์เทียร์ (Panthère de Cartier) เพิ่มเสน่ห์ที่เย้ายวนกว่าเคยด้วยเอกลักษณ์ของเสือแพนเตอร์อันทรงพลัง ผ่านเทคนิคการรังสรรค์ทุกชิ้นงานให้มีความยืดหยุ่น กลมกลืนและงดงามดุจงานประติมากรรมชั้นเลิศ เน้นความโดดเด่นของสร้อยคอและกำไลที่ให้ความรู้สึกทรงพลังพร้อมตัวเรือนและสัมผัสอันอ่อนช้อย ผสานการดีไชน์ข้อต่อเหนือระดับที่     คาร์เทียร์ได้พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เสริมให้เครื่องประดับทุกชิ้นในคอลเลคชั่นนี้มีความยืดหยุ่น สะท้อนให้เห็นจากรายละเอียดที่ดูมีมิติ ด้วยดีไซน์เปี่ยมเสน่ห์ ยืดโค้งได้ ตระการตาด้วยสัตว์สัญลักษณ์อย่าง “เสือแพนเตอร์” ที่คาร์เทียร์นำมาประดับไว้บริเวณปลายกำไลทั้งสองด้าน

ดีไซน์ดั่งมีชีวิต

เส้นสายที่สะอาดตา ดีไซน์ร่วมสมัยและนวัตกรรมข้อต่อแห่งความประณีต สะท้อนถึงการบ่มเพาะความเรียบหรูแต่ทรงคุณค่าตลอดกาลในชิ้นงานของคาร์เทียร์ ดังปรากฏให้เห็นในกำไลเยลโลว์โกลด์แต้มลายแปดเหลี่ยมสีดำด้วยเทคนิคการลงแลคเกอร์ และกำไลไวท์โกลด์ฝังเพชรประดับออนิกซ์ลายจุดสีดำ ที่ออกแบบให้ยาวโค้งทั้งตัวเรือน ประดับหัวเสือแพนเตอร์บริเวณปลายกำไลทั้งสองด้านพร้อมฝังมรกตหรือโกเมนเขียว (ซาโวไรต์) ที่ดวงตา

ประติมากรรมและสัมผัสอันคล่องตัว…โจทย์ใหม่ที่ท้าทายความเชี่ยวชาญ

สร้อยคอและกำไลข้อมือในคอลเลคชั่นนี้ขยับเคลื่อนไหวได้ดุจมีชีวิต ผสานเทคนิคการประกอบชิ้นส่วน 2 ชิ้นเข้าด้วยกัน ด้วยการสลักทองคำรูปใบมีดไขว้ เชื่อมต่อกับสปริงในหัวเสือแต่ละข้าง ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายช่างฝีมือย่างแท้จริง เพราะช่างเครื่องประดับของเมซงต้องคำนึงถึงการกระจายตัวของลายจุดบนตัวเรือน สำหรับสร้อยและกำไลฝังเพชร ช่างฝีมือจะทำการฝังอัญมณีโดยใช้เส้นโลหะบรรจุอัญมณี และจะใช้เส้นโลหะล้อมออนิกซ์ทีละเม็ดเพื่อตรึงให้อยู่กับที่ จากนั้นจึงตัดรอบๆ ออนิกซ์ เนรมิตลวดลายขนเสือแพนเตอร์ซึ่งแลดูนุ่มเนียนเสมือนจริง ตามเทคนิคการฝังอัญมณีสไตล์ “เฟอร์เซ็ตติ้ง” ของคาร์เทียร์

คาร์เทียร์กับเสือแพนเตอร์ โชคชะตานำมาซึ่งความผูกพัน

เสือแพนเตอร์คือสัญลักษณ์เชิงสร้างสรรค์ของคาร์เทียร์ โดยย้อนไปเมื่อปี 1914 ลายจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของสัตว์ชนิดนี้ ได้ปรากฏขึ้นบนนาฬิกาคาร์เทียร์เป็นครั้งแรก และสามปีหลังจากนั้น เสือแพนเตอร์ได้ก้าวจากสัญลักษณ์เชิงนามธรรมสู่ภาพแทนแบบรูปธรรม เมื่อคาร์เทียร์ทำกล่องประดับรูปเสือแพนเตอร์ขนาบข้างด้วยต้นสนไซเปรสซึ่ง หลุยส์ คาร์เทียร์ มอบเป็นของขวัญแก่ ฌานน์ ตูแซงต์ ในปี 1917 นี่คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเสือแพนเตอร์กับ ฌานน์         ตูแซงต์ สองปีต่อมา ฌานน์สั่งทำกล่องลงยาสไตล์แคนตัน สีทองสลับดำ ลงยาเป็นลายเสือแพนเตอร์ พร้อมโอบรับสัตว์ชนิดนี้มาเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเธอตั้งแต่นั้นมา

ปี 1948 ฌานน์ ตูแซงต์ ผู้เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ยอมจำนนอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆ และเป็นเจ้าแห่งวิสัยทัศน์ได้ปรับโฉมเสือแพนเตอร์เป็นสามมิติ สัตว์ชนิดนี้จึงปรากฏกายในพงศาวดารคาร์เทียร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เสือแพนเตอร์ในรูปลักษณ์ที่เหมือนจริงและคงไว้ซึ่งสัญชาตญาณแห่งป่า ยังพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยปรับโฉมตามความเชี่ยวชาญเชิงเครื่องประดับ เพิ่มความหลากหลายในการออกแบบและสวมใส่ และมีวิวัฒนาการด้านดีไซน์มาตลอดทุกคอลเลคชั่น

คาร์เทียร์บ่มเพาะสัญชาตญาณแห่งป่า ความภูมิฐานที่เหนือชั้น และความขบถที่สอดประสานกันเป็นความชาญฉลาดด้านงานจิวเวลรี่ผ่านคอลเลคชั่นต่างๆ ของเมซงจนทุกวันนี้ ความแข็งแกร่งและน่าปรารถนาของเสือแพนเตอร์ที่ได้รับถ่ายทอดมาจาก ฌานน์ ตูแซงต์ ก็ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เสมอในเครื่องประดับคาร์เทียร์

คอลเลคชั่น Panthère de Cartier

สร้อยคอปองแตร์ ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ลงแลกเกอร์ประดับโกเมนเขียว (ซาโวไรต์) และนิล (ออนิกซ์)

สร้อยคอปองแตร์ ตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับมรกต, ออนิกซ์และเพชร

กำไลข้อมือปองแตร์ ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ลงแลกเกอร์ประดับซาโวไรต์และออนิกซ์

กำไลข้อมือปองแตร์ ตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับมรกตและออนิกซ์

แหวนปองแตร์ ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ลงแลคเกอร์ประดับซาโวไรต์และออนิกซ์

แหวนปองแตร์ ตัวเรือนไวท์โกลด์ระดับมรกต, ออนิกซ์และเพชร

You may have missed